สวัสดีครับ ในบท Introduction แอดมินได้บอกถึงเทคนิคด้านการตลาดโดยการวิเคราะห์หลัก 7Ps มาแล้ว ในตอนที่ 2 เป็นต้นไปนี้ แอดมินจะเริ่มอธิบายหลัก 7Ps ทีละตัว จะให้เห็นถึงความสำคัญครบทั้ง 7 ตัวครับ โดยเริ่มตั้งแต่ P ตัวแรก ดังคำบรรยายด้านล่าง
Product (สินค้า)
1. แตกต่าง ที่รูปแบบของสินค้า และความรับรู้ของผู้บริโภค (Product Features)
เป็นการสร้างความแตกต่างของสินค้า ในระดับที่จะทำให้ลูกค้ายอมที่จะซื้อ เป็นที่จำได้ บอกปากต่อปากกันไป การวางโปรดักว่าเราจะขายไอศครีมอะไร คือการมอง "ช่องว่าง" ของความต้องการตรงไหน ที่ผู้บริโภค ยังไม่ถูกเติมเต็ม
ยกตัวอย่างเช่น
+ เดลี่ควีน วางโปรดักให้เป็นเอกลักษณ์ที่ไอศครีมบริซซาร์ท โดยพนักงานจะคว่ำแก้วทุกครั้ง ที่เสริฟ เพื่อโชว์ว่า ไอศครีมของตัวเองเหนียวหนึบ ไม่หก ซึ่งสามารถสร้างการจดจำของผู้บริโภคได้ดีมาก
+ Yogurt Land เคลมตัวเองว่า เป็น Real Yogurt จากอเมริกา ไม่อ้วน ได้สุขภาพ
+ Milk Cow เป็นอีกแบรนด์จากต่างประเทศที่เคลมไอศครีมของตนว่า อร่อยเหมือนดื่มนมวัวสด พร้อมด้วยท็อปปิ้งระดับ Premium สร้างมูลค่าเพิ่มและการจดจำ
+ Hokkaido Soft เคลมตัวเองว่า ใช้วัตถุดิบที่ได้จากนมวัวจาก Hokkaido ความเข้มข้นสูง
+ Owlvee Soft เคลมตัวเองว่า เป็น No.1 Street Soft Cream ในประเทศไทย โดยมีรสชาติให้ได้ลองมากที่สุด
สรุป : ความแตกต่างของรูปแบบสินค้า คือการสร้างความจดจำและการรับรู้ รวมถึงช่วยเพิ่มการบอกปากต่อปากของผู้บริโภคอีกด้วย แล้วคุณล่ะ คุณจะสร้างการรับรู้ของผู้บริโภคแบบไหน นั่นคือสิ่งสำคัญที่คุณต้องคิดเป็นอันดับต้นๆ จะให้บอกง่ายๆคือ คุณจะสร้างความแตกต่างกับคู่แข่งอย่างไร โดยไม่เลียนแบบกัน
2. แตกต่าง ที่การเล่าเรื่องของสินค้า รวมไปถึงกรรมวิธีการผลิต (Story and History)
เรื่องราวหรือกรรมวิธีทางการผลิตนั้นมีผลต่อการสร้าง "ความมีคุณค่า" (Value) ให้กับสินค้า ได้แน่นอน แต่ต้องไม่ลืมว่าเรื่องราวต่างๆ นั้น ต้องสอดคล้องกับแบรนด์ มีคุณค่าทางจิตใจและมีผลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภคด้วย
สรุป : เราอาจจะไม่เห็นการสร้าง Story ในธุรกิจของหวานมากนัก แต่การเริ่มสร้าง Story ตั้งแต่เริ่มต้นธุรกิจ ย่อมส่งผลดีกับความรับรู้ในอนาคตแน่นอน
3. แตกต่าง ด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ (Product and Package Design)
การออกแบบสินค้าและบรรจุภัณฑ์ ก็เป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้การพัฒนารูปแบบสินค้านะครับ เพราะโดยทั่วไปแล้ว รูปลักษณ์ของสินค้าและบรรจุภัณฑ์เป็นสิ่งที่ผู้บริโภคให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆ อยู่แล้วยิ่งในโลก Social ด้วยแล้ว สินค้า ที่เลือกอุปโภค บริโภค เป็นเครื่องบ่งบอกถึง รสนิยม และ ภาพลักษณ์ของผู้ใช้ด้วย
จากรูปตัวอย่างด้านบน
+ Kiss the Teramisu จากเกาหลี ใช้แก้วเหมือนแก้วแชมเปญที่เป็นเอกลักษณ์พร้อมตกแต่งให้สวยงาม
+ Sofuto Cream จากเชียงใหม่ ใช้การออกแบบ Package ให้เป็นแนวไอศครีมหม้อไฟผลไม้
+ Creamy Brazzle ใช้สายไหมสีรุ้งมาเป็นกิมมิกของแบรนด์
สรุป : การออกแบบแพคเกจจิ้ง ถือเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้นๆในยุคนี้เลยก็ว่าได้ เผลอๆ อาจจะสำคัญกว่า รสชาติ หรือ รูปแบบด้วยซ้ำ เนื่องจากโลก Social ที่มีหลายช่องทางให้ผู้บริโภคได้แชะและแชร์ สินค้าที่เลือกซื้อกัน
สรุปบทความตอนที่ 2 (Product) : การสร้างความแตกต่างให้สินค้าถือเป็นสิ่งที่ต้องคำนึงเป็นอันดับ 1 การจะให้สินค้าออกมาสู่ตลาดและเป็นที่จดจำ จำเป็นต้องคำนึงถึงทั้ง 3 ข้อที่กล่าวมาข้างต้น ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบสินค้าที่แปลกไม่เหมือนใคร ไม่ก็อปปี้ใคร แต่หลายครั้งวิวัฒนาการของไอศครีมเกิดการ ก็อปปี้ แล้วนำไปพัฒนาขึ้นไปนะครับ การสร้างเรื่องราวให้แบรนด์เรา เช่น แบรนด์เรามาจากไหน ไอศครีมของเรา มาจากประเทศอะไร ทำไมต้องทานไอศครีมเรา ก็เป็นสิ่งที่ควรจะมีไว้ และที่สำคัญที่สุด *** เรา จะออกแบบแพคเกจเรายังไง ให้แปลก ไม่เหมือนใคร ยากต่อการเลียนแบบ***
Credit : Dairy Queen, Hokkaido Soft, Yogurt Land, Milk Cow, Kiss the Teramitsu, Owlvee Soft, Sofuto Cream, Creamy Brazzle
